เสียเวลาซักนิด...มาเช็คสภาพรถหลังเดินทางไกลในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา

บท ความนี้ขอนำเสนอเทคนิคการตรวจเช็คสภาพรถหลังการใช้งานเดินทางไกลในช่วง เทศกาลปีใหม่ ในวันหยุดยาวที่ผ่านมา หลายท่านพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในแต่ละภาคของไทย หลายท่านเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง หรือใช้บริการขนส่งทางอากาศกับสายการบินต่างๆ แต่อีกหลายท่านที่นำรถยนต์ส่วนตัวพาครอบครัวเที่ยวตามสถานที่ต่างๆในช่วงที่ ผ่านมา จากการใช้รถในเส้นทางระยะไกลกว่าในชีวิตประจำวัน ซึ่งการตรวจเช็คสภาพรถหลังการเดินทางไกลๆ นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง เพราะรถของเราผ่านการใช้งานอย่างหนัก ต้องพบเจออุปสรรคต่างๆตลอดการเดินทาง ซึ่งอาจเกิดความเสียหายกับรถของเราโดยไม่รู้ตัว และไม่ทันได้สังเกตุ บทความนี้เราจึงมีข้อแนะนำง่ายๆใช้เวลาไม่นานในการตรวจเช็คสภาพรถของท่านดัง ต่อไปนี้

1. สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกเลยคือ การล้างทำความสะอาดรถ ไม่ว่าจะเป็นการนำรถของท่านเข้าคาร์แคร์ หรือร้านล้างอัดฉีดทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอก หากรถของเราสกปรกจะทำให้เรา จะสังเกตุสิ่งผิดปกติที่เกิดกับรถได้ยาก จึงควรทำความสะอาดรถเป็นอย่างแรก (ถ้าจะให้ดีควรล้างทำความสะอาดห้องเครื่องด้วย โดยคาร์แคร์หรือร้านล้างรถปัจจุบันก็มีบริการในส่วนนี้อยู่แล้ว)

เมื่อ เราทำความสะอาดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราควรเดินสำรวจดูรอบๆตัวรถ ว่ามีความผิดปกติ ความเสียหายอะไรเกิดขึ้นกับรถเราบ้าง อาจมีรอยที่เกิดจากเศษหินกระเด็นใส่ หรือคราบยางมะตอยจากถนนที่กำลังสร้างใหม่ เราควรถ่ายรูปหรือทำเครื่องหมายเพื่อดำเนินการแก้ไขในเวลาต่อมา

2. เมื่อ เราตรวจเช็คสภาพตัวรถทั้งภายนอกและภายในเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อมาที่เราจะทำคือ การตรวจเช็คสภาพยางรถของเรา ซึ่งถือเป็นเรื่องเบสิคพื้นฐานของการตรวจเช็คสภาพรถ ในการเดินทางที่ผ่านมา ยางต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็นถนนขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ ถนนที่กำลังก่อสร้าง เส้นทางที่มีการซ่อมปะผิวถนนที่ทำให้พื้นผิวถนนไม่เรียบ อีกทั้งความร้อนสะสมจากการใช้งานในระยะทางไกลๆ อาจมีเศษหินติดอยู่ตามร่องดอกยาง และตรวจดูว่าแก้มยางเกิดความเสียหาย หรือมีสิ่งแปลกปลอมที่อาจทำให้ยางรั่วซึมหรือไม่ เมื่อตรวจเช็คสภาพยางโดยรวมแล้ว ก็อย่าลืมเช็คลมยางด้วยว่ายังอยู่ในระดับปกติพร้อมใช้งานหรือไม่ ซึ่งปกติความดันลมยางควรอยู่ที่ระดับ 32-35 psi ขึ้นอยู่กับชนิดของรถของท่านอีกที โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่...บทความเรื่องการเติมลม

3. หลังจากนั้นเราก็มาตรวจเช็คภายในห้องเครื่องของรถ ส่วนแรกที่เราดูกันเป็นประจำคือ การตรวจ เช็คน้ำมันเครื่อง ไม่ว่าน้ำมันเครื่องท่านจะเพิ่งเปลี่ยนก่อนเดินทาง หรือใช้งานมาเพียงระยะสั้นหลังจากเพิ่งเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมาแล้วก็ตาม หากกลับจากการเดินทางไกลควรต้องเช็คน้ำมันเครื่องครับ โดยแบ่งการตรวจเช็คย่อยได้อีกดังนี้

3.1 ระดับน้ำมันเครื่อง

ซึ่งระดับน้ำมันเครื่องปกติ จะอยู่กึ่งกลางระหว่างจุด min - max ของก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง และควรเช็คน้ำมันเครื่องในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานแล้วซักพัก หรือหลังจากอุ่นเครื่องแล้ว เมื่อกลับจากการเดินทางแล้วควรทำการตรวจเช็คดูระดับน้ำมันเครื่องว่ายังคงเดิมหรือไม่ ถ้าเครื่องยนต์ของรถทำงานปกติ ไม่รั่ว ไม่ซึม ระดับน้ำมันเครื่องจะอยู่เท่าเดิมหรือใกล้เคียงระดับเดิมครับ แต่หาก เราพบว่าระดับของน้ำมันเครื่องลดลงอย่างเห็นได้ชัด แสดงว่าระบบเครื่องยนต์ของรถอาจมีปัญหา เบื้องต้นเราอาจจะหาจุดผิดปกติของเครื่องยนต์เองได้จากรอยน้ำมันซึมตามรอย ต่อเครื่องยนต์ว่ามีน้ำมันซึมตรงไหนบ้าง และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องล้างห้องเครื่องให้สะอาดก่อนนั่นเอง หากห้องเครื่องสกปรกเราจะไม่สามารถเห็นความผิดปกติในส่วนนี้ได้ หรือสังเกตุเห็นได้ยาก อีกสาเหตุที่ทำให้น้ำมันเครื่องลดระดับลงอย่างมาก อาจเป็นเพราะเราเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่ค่าความหนืดน้อย เกินไป เช่นใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ 20 น้ำมันเครื่องที่ความความหนืด 20 จะส่งผลเมื่อวิ่งในเส้นทางระยะไกลๆ และการใช้งานรถอย่างหนักแบบนี้ได้

*เพิ่ม เติมในส่วนของเทคนิคการเติมน้ำมันเครื่องซักนิดครับ ระดับน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับการใช้งาน คือ อยู่กึ่งกลางระหว่างจุด min – max ของเข็มวัดระดับน้ำมันเครื่อง ถ้าเราใช้งานในสภาพถนนมีระดับปกติ แต่ ถ้าหากเราใช้งานรถในลักษณะที่ต้องไต่ขึ้น-ลงเขาที่สูงชันบ่อยๆเป็นประจำ เราควรเติมน้ำมันเครื่องให้เกินจุดกลางของ min - max ซักเล็กน้อย เพราะการไต่ขึ้น-ลงเขานั้น น้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์มีโอกาสที่จะหล่อเลี้ยงไม่ทั่วถึงจึงควรเติมเผื่อเข้าไปอีกนิดครับ หรือหากว่าโปรแกรมการเดินทางของเราต้องผ่านเขาสูงๆ ก่อนเดินทางก็ควรเติมน้ำมันเครื่องเพิ่มอีกซักเล็กน้อย

3.2 ตรวจสภาพความเสื่อมของน้ำมันเครื่อง และตรวจดูว่ามีน้ำเข้าไปปะปนในน้ำมันเครื่องหรือไม่

ในส่วนนี้เราสามารถตรวจเช็คไปพร้อมๆกันได้ วิธีการตรวจสอบคือนำเอาน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดมาปาดบนนิ้วมือโดยใช้ นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ละเลงน้ำมันเครื่องให้ทั่วนิ้วชี้ น้ำมันเครื่องที่ปกติ และสามารถใช้งานต่อไปได้โดยไม่มีปัญหา จะมีลักษณะไม่หนืด สามารถละเลงได้เรียบเสมอเป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ ได้โดยง่าย แต่หากน้ำมันเครื่องมีลักษณะข้นเหนียวและหนืดมาก เมื่อละเลงลงบนนิ้วแล้วจะไม่เนียน และอาจมีเศษโลหะหรือสิ่งสกปรกแปลกปลอมติดมาเป็นก้อนอยู่เป็นเศษดำๆให้เห็น แสดงถึงความเสื่อมสภาพของน้ำมันเครื่องแล้ว

4. ดูระดับน้ำในหม้อน้ำและระดับน้ำในหม้อพักว่าลดลงหรือไม่ กรณีเดียวกันกับน้ำมันเครื่อง ปกติน้ำในหม้อน้ำอาจมีการลดลงบ้างแต่ไม่มากนัก และน้ำในหม้อพักน้ำจะมีระดับใกล้เคียงระดับมาตรฐาน แต่ถ้าหากน้ำในหม้อน้ำแห้ง และน้ำในหม้อพักลดลงให้เติมน้ำให้อยู่ในระดับปกติแล้วลองใช้งานดูว่ามีการ เปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ หากน้ำในหม้อน้ำและหม้อพักยังลดลงอยู่ แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติของระบบระบายคลายร้อนของรถคุณแล้ว เพื่อความปลอดภัยควรนำรถของท่านตรวจเช็คโดยทันที

*ข้อควรระวังในการเช็คระดับน้ำในหม้อน้ำ การจะเปิดฝาหม้อน้ำควรทำขณะรถไม่ได้ใช้งาน หรือในขณะที่รถเย็น หากพบว่าเกจ์วัดระดับความร้อนมีความร้อนสูงไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำทันที ควรจอดรถทิ้งไว้ซักพักแล้วจึงค่อยเปิดฝาขณะที่รถเย็นลงแล้ว การเปิดฝาหม้อน้ำหลังจอดรถที่วิ่งใช้งานในทันที น้ำจะมีความร้อนและแรงดันน้ำสูง น้ำในหม้อน้ำอาจพุ่งกระเด็นถูกร่างกายให้ได้รับความบาดเจ็บได้

5. ไส้กรองอากาศ การตรวจเช็คไส้กรองอากาศ หากพบว่ากรองอากาศสกปรกมีสีเทาๆไม่ดำมาก ทำความสะอาดโดยใช้ลมเป่าแล้วใช้แปรงที่มีขนอ่อนนุ่มปัดเบาๆ ก็สามารถนำกรองอากาศอันเดิมใช้งานต่อไปได้ แต่หากพบกับสภาพกรองอากาศดำปี๋ เป่าแล้วเป่าอีก ทั้งปัดทั้งแปรงก็ยังไม่สะอาด ลักษณะนี้ควรเปลี่ยนใหม่สถานเดียวครับ ตามคู่มือได้บอกไว้อยู่แล้วว่า ไส้กรองอากาศควรเปลี่ยนทุกๆ 30,000 กิโล เราก็จัดการนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ใกล้บ้านแล้วแต่ความสะดวกของท่านได้เลย

6. ข้อสุดท้ายของการตรวจเช็ค สิ่งที่เราอาจละเลยไปคือเรื่องของระบบไฟ หลังจากเดินทางไปทั่วสาระทิศแล้ว ย้อนกลับมาดูไฟหน้า ไฟท้ายเสียหน่อย ว่ายังคงทำงานดีอยู่หรือไม่ ระบบไฟเลี้ยวซ้าย-ขวา ไฟหรี่ ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟฝ่าหมาก(ไฟฉุกเฉิน) ใช้เวลาเพียงไม่มาก เปิด-ปิดระบบไฟต่างๆเหล่านี้ เพื่อช่วยเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางได้อย่างมากเลยทีเดียว

ทั้ง หมดที่ได้กล่าวมา สามารถทำได้บ่อยๆอาจไม่ถึงกับเช็คทุกวัน เพียงอาทิตย์ละครั้ง เพื่อความพร้อมของรถสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เมื่อรถพร้อมความปลอดภัยก็เพิ่ม เสียเวลาซักนิดเพื่อชีวิตและทรัพย์สินของคุณและผู้ร่วมเดินทาง

ลิ้งค์สำหรับยางรถยนต์ , บทความเกี่ยวกับการดูแลรถและยางรถ


EmoticonEmoticon